ข่าวประชาสัมพันธ์

Close

ข่าวประชาสัมพันธ์

กินข้าวคนเดียว ก็อิ่มหลายคนได้ ถ้าเลือกกินข้าวอินทรีย์

กินข้าวคนเดียว ก็อิ่มหลายคนได้ ถ้าเลือกกินข้าวอินทรีย์

 กินข้าวคนเดียว ก็อิ่มหลายคนได้ ถ้าเลือกกินข้าวอินทรีย์

 การกินข้าวคนเดียวจะไม่เหงาอีกต่อไป!

แม้ว่าเราจะนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวเหงาๆ แต่ถ้าเราเลือกกินข้าวอินทรีย์ มองเห็นความเชื่อมโยงในจักรวาลรอบจานข้าว เราจะรู้ว่าในหนึ่งอิ่มของเรา ได้ ‘อิ่มเผื่อ’ ไปอีกหลายคนเลยทีเดียว

เริ่มต้นที่เราคนกินกันก่อน ข้าวอินทรีย์หอมฉุยปลอดภัยต่อคนกินนั้นเป็นความอิ่มแบบไม่ต้องกังวล เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างจากการเพาะปลูก ไม่ต้องลุ้นว่าจะมียากันมอดพ่นมาด้วยไหม ยิ่งข้าวเป็นอาหารหลักที่เรากินกันแทบทุกมื้อ โอกาสสะสมก็ยิ่งสูง การเลือกข้าวอินทรีย์กินเอง หรือหุงเผื่อคนในครอบครัว ก็ช่วยให้เรามั่นใจได้มากขึ้นว่าเราได้มอบอิ่มที่ดีและปลอดภัยในทุกๆ มื้อ

แต่ไม่ใช่แค่เราและสมาชิกรอบโต๊ะกินข้าว การเลือกข้าวอินทรีย์ยังส่งต่อความอิ่มไปยังเกษตรกรคนปลูก ซึ่งตั้งอกตั้งใจดูแลข้าวทุกแปลงให้ปลอดภัย ไม่เลือกทางลัดที่ง่ายกว่าสบายกว่าอย่างการใช้ปุ๋ยเคมีที่การันตีผลผลิตได้แน่นอน การปลูกข้าวอินทรีย์จึงเป็น ‘งานยาก’ ที่อาศัยทั้งเวลา ความใส่ใจ ความทุ่มเท และการยืนระยะ เพราะแม้ว่าจะลดค่าใช้จ่ายอย่างค่าปุ๋ย ค่ายา หรือค่าหาหมอจากสุขภาพที่ทรุดโทรมไปได้ แต่ก็ต้องอาศัยแรงในการดูแลมากขึ้น ยิ่งได้ผลผลิตน้อย และไม่มีตลาดรองรับเพียงพอ ชาวนาที่พยายามเปลี่ยนแปลงนาให้เป็นอินทรีย์อาจสู้ไม่ไหว ต้องกลับไปใช้เคมีอีก เพราะฉะนั้น การที่คนกินอย่างเราเลือกอุดหนุนข้าวอินทรีย์ จึงเท่ากับการส่งแรงใจให้ชาวนาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงได้ไปต่อในวิถีที่ยากแต่ยั่งยืนกว่า เพราะหากทำนาอินทรีย์นานพอ ระบบนิเวศจะฟื้นฟูตัวเองจนผลผลิตดีขึ้น และชาวนาก็เหนื่อยน้อยลงด้วยนะ

และเมื่อถึงวันที่ระบบนิเวศรอบนาดีขึ้น อีกหลายชีวิตก็ได้อิ่มร่วมกัน ไม่ว่าจะกุ้ง หอย ปู ปลา นก กา ที่อาศัยอยู่ในนาที่ปลอดเคมีได้ แม้ว่าบางตัวจะชอบแย่งกินข้าวในแปลง แต่ถ้าจัดการสมดุลได้ดีก็ยังเหลือผลผลิตดีๆ ให้เรากินด้วย หรือแม้แต่แมลงตัวห้ำ ตัวเบียน ก็จะมาช่วยกันดูแลสมดุลในพื้นที่ด้วยเช่นกัน อิ่มของเราจึงเผื่อไปยังสัตว์ตัวจิ๋วรอบนา และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ธรรมชาติค่อยๆ ฟื้นคืน  

แต่นิทานเรื่องนี้จะไม่มีทาง แฮปปี้ ‘อิ่ม’ ดิ้ง ได้ ถ้าชาวนาอินทรีย์ไม่มีกลุ่มก้อนชาวนาอุดมการณ์เดียวกัน มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จึงขับเคลื่อนเรื่องนี้ผ่านการส่งเสริมให้ชาวนาเรียนรู้วิธีที่ถูกต้อง สนับสนุนกลุ่มเกษตรกรไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ พร้อมเป็นผู้เชื่อมประสานกับองค์กรศาลานาเพื่ออุดหนุนด้วยการรับซื้อล่วงหน้าผ่านแบรนด์ศาลานา ที่การันตีว่าผลผลิตทุกแปลงจะมีตลาดรองรับ รวมทั้งจ่ายล่วงหน้าให้กลุ่มเกษตรกรใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นค่าเมล็ดพันธุ์ หรือค่าปัจจัยการผลิตได้อย่างรคล่องตัว อีกทั้งยังสนับสนุนให้รวมกลุ่มกันไว้เพื่อต่อยอดการเป็นผู้ประกอบการ หรือให้ทุนสนับสนุนหากกลุ่มมีเป้าหมายที่จะร่วมกันทำนาอินทรีย์ให้ยั่งยืนขึ้น เช่นอยากได้มาตรฐานการรับรองนานาชาติ อยากโกอินเตอร์ หรืออยากพัฒนานวัตกรรม ฯลฯ ถ้ามีแรงและมีแผนที่ดี (แบบยั่งยืน) มูลนิธิฯ ก็พร้อมสนับสนุนในช่วงเริ่มต้น

ที่เล่ายาวมาทั้งหมดนี้ เพื่อที่จะยืนยันว่าการกินข้าวคนเดียวแต่อิ่มหลายคนไม่ใช่เรื่องอุดมคติหรือขายฝัน ถ้าเราเห็นภาพเดียวกันและช่วยกันเติมส่วนที่ขาดให้เต็ม

และในฐานะคนกิน เราอยากชวนให้เปลี่ยนมากินข้าวอินทรีย์ หากอยากให้เรื่องนี้จบแบบแฮปปี้และ ‘อิ่มกันทุกคน’